วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

steak tartare


steak tartare


          TartareLe สเต็กสเต็กครีบเป็นอาหารที่มีส่วนผสมเป็นเนื้อวัวหรือม้าดิบในดคีบหลักการ (สับหยาบ) หลักแม้ว่ามักจะเสิร์ฟเครื่องสับ มันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะแยกจานโบราณที่เกิดขึ้นในรัสเซียบริภาษ nomads สูตรที่ทันสมัย​​ที่ได้รับว่าหลักการของเนื้อดิบ เป็นที่น่าสังเกตว่าในอาหารเกาหลียังสามารถหาครีบสเต็กมักจะเผ็ด แต่เพียงผู้เดียวแบน (Yukhoe) หรือบางครั้ง bibimbap ผสม (วัฒนธรรมเกาหลียังมีบางส่วนที่มามองโกล) ในสูตรอิตาลี (ฟองน้ำ) มีการเพิ่มไข่แดงและเปอร์, ผักดอง, น้ำมันมะกอกเล็กน้อยผักชีฝรั่งกระเทียมและหัวหอม ประเพณีการปรุงรสที่ทำด้วยเกลือและพริกไทย, ตาบัสโกและซอส ครีบสเต็กมักจะเสิร์ฟพร้อมกับจานของมันฝรั่งทอด



           ที่มาของ สเต็ก ครีบครีบ สเต็ก ใน แคนาดารายงาน ข้อมูล ครั้งแรก ในยุโรป สเต็ก ครีบ จาก วิศวกรและ แผน ของ ศตวรรษที่สิบเจ็ด กีโยม Levasseur Beauplan มีหน้าที่ ยาว ในโปแลนด์ - ลิทัวเนีย ก็ มีรายงาน การสำรวจ จำนวนมาก ในรายละเอียดของ หนังสือที่ตีพิมพ์ใน Ukranie 1651 ในรูออง ที่กล่าวถึงใน สูตร ประกอบกับ พวกตาตาร์ แต่ ตั้งข้อสังเกตใน Zaporozhye คอสแซค ได้พบ ในดินแดนของ ยูเครนในอนาคตก็ คือการตัด ชิ้นส่วนของ ม้า เนื้อนิ่ม หนึ่งหรือ สองนิ้ว หนา และ แล้วหลังจากที่ เค็ม มาก ด้านหนึ่งไปยัง เลือด ออกใส่ไว้ ใต้ที่นั่ง ด้านหลังของ ม้าของเขา เนื้อสัตว์ควร อยู่ในสถานที่ สอง ชั่วโมงแล้ว จะถูกลบออก และทำความสะอาด โฟม เลือด ของเขาใน ด้าน เค็ม มัน ถูกนำตัวกลับ ไปยัง ด้านอื่น ๆ และ จัดทำ ในลักษณะเดียวกับ ก่อนที่จะ ถือว่า พร้อมที่จะ พื้นดิน ที่ จะพูด ล้น dewatered ของ เลือด แทนที่จะเนื้อดิบ . อีก คำอธิบาย โบราณ ของสเต็ก ครีบ ที่อยู่ใน นวนิยายเรื่องนี้ ไมเคิล Strogoff โดย Jules Verne ตีพิมพ์ ในปี 1875 นั่นคือเหตุผลที่ อาหารจานนี้ ได้กลายเป็น พิเศษ ของร้านอาหาร Le Jules Verneบน ชั้นสอง ของหอไอเฟล ในกรุงปารีส สูตรเก่าแก่ที่สุด ที่รอดตาย ใน 1938 ฉบับLarousse Gastronomique เจริญ Montagnier




วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Le Tour de France


Le Tour de France



Tour de France หมายถึง การท่องฝรั่งเศส หรือบางครั้งเรียกว่า ลากร็องด์บุกล์ (La Grande Boucle) และ เลอตูร์ (Le Tour) เป็นการแข่งขันจักรยานทางไกลรอบประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์ในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1903 จนถึงปัจจุบัน (เว้นการจัดแข่งขันในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง) 

ตูร์เดอฟร็องส์ เป็นการแข่งขันจักรยานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก เป็นการแข่งขันจักรยานทางไกลหนึ่งในสามรายการใหญ่ที่จัดการแข่งขันใน ยุโรป รวมเรียกว่า แกรนด์ทัวร์ โดยอีกสองรายการคือ
จีโรดีตาเลีย (Giro d'Italia) จัดในอิตาลี ช่วงเดือนพฤษภาคม-ต้นมิถุนายน
วูเอลตาอาเอสปันญา (Vuelta a España) จัดในสเปน ช่วงเดือนกันยายนการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1903 เกิดขึ้นเนื่องจากการท้าทายกันทางหน้าหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสชื่อ โล โต้ (L'Auto) มีนักแข่งเข้าร่วมจำนวนถึง 60 คน แต่สามารถเข้าเส้นชัยได้เพียง 21 คน ซึ่งกิตติศัพท์ของความยากลำบากในการแข่งขัน ทำให้การแข่งขันนี้เป็นที่สนใจ และมีผู้ชมการแข่งขันช่วงสุดท้ายในกรุงปารีสตามสองฟากถนนระหว่างทางราว 100,000 คน และกลายเป็นประเพณี ที่การแข่งขันทุกครั้งจะไปสิ้นสุดที่ประตูชัย จตุรัสเดอเลตวล ปารีส


ในปี ค.ศ. 1910 เริ่มมีการจัดเส้นทางแข่งขันเข้าไปในเขตเทือกเขาแอลป์ ปัจจุบันเส้นทางการ แข่งขันจะผ่านทั้งเทือกเขาแอลป์ ทางตะวันออก และเทือกเขาพีเรนีสทางใต้ของฝรั่งเศส



การแข่งขันตูร์เดอฟร็องส์จะแบ่งเป็นช่วง (stage) เพื่อเก็บคะแนนสะสม ผู้ชนะในแต่ละช่วงจะได้รับเสื้อ (jersey) เพื่อสวมใส่ในวันต่อไป โดยมีสีเฉพาะสำหรับผู้ชนะในแต่ละประเภท คือ

สีเหลือง (maillot jaune - yellow jersey) สำหรับผู้ที่ทำเวลารวมได้น้อยที่สุด

สีเขียว (maillot vert - green jersey) สำหรับผู้ที่มีคะแนนรวมสูงที่สุด (the leader of the points classification)

สีขาวลายจุดสีแดง (maillot à pois rouges - polka dot jersey) สำหรับผู้ชนะในเขตภูเขา ซึ่งมีชื่อเรียกเฉพาะว่า จ้าวภูเขา King of the Mountains

สีขาว (maillot blanc - white jersey) สำหรับผู้ที่ทำเวลารวมได้น้อยที่สุดสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 26 ปี

สีรุ้ง (maillot arc-en-ciel - rainbow jersey) สำหรับผู้ชนะการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์โลก (World Cycling Championship) ซึ่งมีกฎว่าจะต้องใส่เสื้อนี้เมื่อแข่งขันในประเภทเดียวกับที่ผู้แข่งนั้น เป็นแชมป์โลกอยู่

เสื้อแบบพิเศษ สำหรับผู้มีคะแนนรวมสูงสุด และชนะการแข่งขันช่วงย่อย และจ้าวภูเขา

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Pont des Arts (สะพานกุญแจแห่งรัก


PONT DES ARTS : สะพานกุญแจแห่งรัก

           
            PONT DES ARTS เป็นสะพานที่เชื่อมสองฝั่งแม่น้ำเซน ปารีส ช่วง MUSÉE DU LOUVRE และ INSTITUT DE FRANCE สะพาน PONT DES ARTS เป็นสะพานแห่งแรกในกรุงปารีสที่มีโครงสร้างทำด้วยเหล็ก สร้างในสมัยจักรพรรดิ์นโปเลียน ในปี ค.ศ.1802 ได้นำแบบอย่างมาจากประเทศอังกฤษ


          
       มุม มองด้านพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (MUSÉE DU LOUVRE) ถึงแม้โครงสร้างของสะพานจะเป็นเหล็ก แต่ออกแบบได้สวยงามไม่เทอะทะ มีความโปร่ง เส้นโค้งของโครงสร้างมีจังหวะจะโคนสวยงามและอีกฝั่งหนึ่งด้าน INSTITUT DE FRANCEสะพาน แห่งนี้เคยชำรุดเนื่องจากกาลเวลาและถูกระเบิดเสียหายในสมัยสงครามโลกทั้งสอง จึงได้ปรับปรุงใหม่เมื่อประมาณปี ค.ศ.1981ดังที่เห็นในปัจจุบัน พื้นของสะพานเป็นไม้แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้สะพานแห่งนี้มีชื่อ เสียงโด่งดัง เป็นจุดหมายของคู่รักและนักท่องเที่่ยวจากทั่วโลก ก็คือกุญแจที่คล้องเต็มราวสะพานทั้งสองข้างนี่เอง กุญแจส่วนใหญ่จะมีชื่อคู่รักเขียนหรือสลักติดไว้นอกจากชื่อแล้วก็ยังมีข้อความหรือสัญลักษณ์ต่างๆ และที่น่าสนใจก็คือรูปแบบที่หลากหลายของของกุญแจ มีทั้งใหม่เอี่ยมและเก่าจนสนิมเขรอะ มีความเชื่อกันว่าเมื่อคู่รักคู่ใดได้ มาอฐิษฐานความรัก พร้อมกับคล้องกุญแจไว้ที่สะพานแห่งความรักนี้แล้ว ความรักของทั้งสองจะอยู่ยั้งยืนยงชนิดที่ว่าไม่มีอะไรที่จะพรากได้ เพราะลูกกุญแจได้โยนทิ่งน้ำไปหลังจากล้อคเรียบร้อยแล้ว













วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Préfile

            
           








 Bonjour 

Je m'appelle Thidarat Foosang. Mon petite nom est Nook.
J'ai 17 ans. Je suis éléve à l'école PhayaopittayaKhom.
Je suis thailandaise. Dans ma famille il y a 3 personners.

Facebook : Thidarat Foosang 

Email : nook_noynoy@hotmail.com